มารู้จัก 3G กันครับว่าคืออะไรกันแน่

ปีนี้หลายๆค่ายต่างมุ่งหน้าไปยังเครือข่าย 3G บางค่ายได้มีการออกตัวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นว่าด้วยระบบเทคโนโลยี 3G จะสามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงการให้บริการต่างๆได้อย่างง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

ก่อนจะรู้จัก 3G มารู้จักเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ในตอนนี้กับในอดีตกันก่อนนะครับ เอาไว้ประดับความรู้ แต่เล่าย่อๆพอสังเขปนะครับ

G = Generation ดังนั้น 3G ก็คือเทคโนโลยีรุ่นที่สามของเครือข่ายมือถือครับ

1G = ย้อนไปสักสิบห้าปีตอนโมโตโลร่ากระดูกหมูกำลังฮิต จำได้ว่าตอนไปรับน้องเพื่อนผมเอาไปตอกตะปูแทนฆ้อนครับ สมัยนั้นมีแต่ voice ครับ sms / wap อะไรพวกนี้ไม่มีเลย ถือเป็นยุคแรกของการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เลย ตอนนั้นรับสายและโทรออกเสียเงินทั้งคู่นะครับ ผมก็เคยใช้อยู่พักนึง ( รู้อายุเลย ) หน้าตามือถือพวกนี้จะใหญ่ๆขนาดพอเหมาะกับกระติกน้ำ มีเสารับสัญญาณด้วยครับ ซึ่งถือว่าไฮเทคมากแล้วในขณะนั้น

2G = ยุคนี้เริ่มจะมีการใช้ wap แล้วครับ รวมไปถึง sms ต่างๆด้วย โดยความเร็วของ wap จะอยู่ที่ 9.6kbs โดยประมาณครับ คิดง่ายๆว่าเอามาต่อเน็ทเป็นโมเด็มอาจจะหลับก่อนครับ ... หรือถ้านับจาก Process การกินมาม่าอาจจะเริ่มจากเดินออกไปซื้อกลับเข้ามาเลยทีเดียว

2.5G = ยุคนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงด้านความเร็วจากเดิม wap - > gprs ซึ่งมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 44kbs โดยประมาณครับ เรียกว่าพอใช้งานได้แม้จะอึดอัดบ้างแต่ก็ดีกว่าเดิมเยอะ ยุคนี้มี mms แล้วนะครับ และทำให้มือถือที่มีกล้องได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนเป็นมาตรฐานปัจจุบันไปแล้ว ซึ่งรวมไปถึงการดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้า ภาพwallpaper เกมส์ และการใช้งานต่างๆ ต่างๆเป็นต้นครับ เทียบกับ Mama process จะราวๆ ต้มน้ำรอให้เดือดลวกมาม่าครับ

2.75G = ยุคนี้มี EDGE ซึ่งมีมาประมาณ 5-6 ปีแล้วครับ ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 100kbs ( เฉลี่ยจากการใช้งานจริง ) เรียกได้ว่าใช้งานอินเตอร์เน็ทผ่านมือถือได้อย่างสะดวกมากๆครับ เพราะความเร็วที่มากกว่าเดิมจาก gprs ราวๆ 3-4 เท่าครับ ยุคนี้การเอามือถือมาต่อเป็นโมเด็มได้รับความนิยมอย่างมากเลยครับ อันนี้ไม่ค่อยนานแล้วครับ ลวกมาม่ากินได้ชามนึงก็น่าจะโหลดเว็บเสร็จพอดี ฮ่าๆ ทีนี้ก็มารู้จัก 3G กันดีกว่าครับ

3G คืออะไร ?

3G มาจากคำว่า 3rd Generation of technology for mobile network หรือ เทคโนโลยียุคที่สามของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วในการส่งข้อมูล ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มีขีดความสามารถในการเข้าถึงบริการได้มากมายหลากหลาย รวดเร็วและสะดวกในการใช้งานมากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคก่อน ตัวอย่างบริการต่างๆ เช่น Video Call, Mobile TV, Mobile Broadband Internet เพื่อเข้าสู่อินเตอร์เนต อ่านอีเมลล์ ท่องเว็บไซต์ต่างๆ อย่างที่ต้องการได้ เป็นต้น และที่สำคัญ เราสามารถใช้งานโทรศัพท์ไปพร้อมๆกับเล่นอินเตอร์เน็ทได้ครับเพราะช่องสัญญาณแยกกัน ซึ่งต่างจาก 2G technology นั่นแปลว่าการสนทนากับสายนั้นต้องน่าเบื่อมากๆ ท่านถึงเล่นเน็ทไปด้วยคุยไปด้วยนะครับ เอิ๊กๆ

ไอ้ที่แย่ไปกว่านั้นคือระบบ video call จะทำให้ท่านไม่สามารถหลั่นล้าได้อีกต่อไป เพราะภาพด้านหลังจะบ่งบอกว่าท่านอยู่ที่ไหน ยกเว้นท่านจะพกฉากหลังติดตัวไปตลอดแล้วบอกว่าทำงานอยู่ อันนี้เรียกประโยชน์หรือโทษดีครับนี่ ฮ่าๆ

ระบบ 3G ของบ้านเราตอนนี้เป็นเทคโนโลยีใด

ตอบ: ระบบ 3G ของบ้านเราเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า WCDMA (Wide Band CDMA) ซึ่งเป็นคนละแบบกับ CDMA 2000 1X ของ Hutch ปัจจุบันระบบ WCDMA เป็นระบบ 3G ที่มีมาตรฐานดีที่สุดและมีผู้ให้บริการมากที่สุดทั่วโลก รวมถึงจำนวนผู้ใช้บริการก็มากที่สุดเช่นกัน

ปัจจุบันเทคโนโลยี 3G แบบ WCDMA นั้นทำงานอยู่บนความถี่ใดบ้าง

ตอบ: ระบบ 3G WCDMA นั้นมีมาตรฐานอยู่ 4 ความถี่ด้วยกัน ได้แก่

ความถี่ย่าน 2100 MHz: เป็นความถี่มาตรฐานที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก โดยใช้กันอยู่ในทวีปยุโรป เอเชีย แอฟริกา

ความถี่ย่าน 1900 MHz: เป็นความถี่มาตรฐานที่สองของ 3G WCDMA โดยใช้กันอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและใต้

ความถี่ย่าน 850 MHz: เป็นความถี่มาตรฐานที่สามของ 3G WCDMA โดยใช้กันอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและใต้

ความถี่ย่าน 900 MHz: เป็นความถี่มาตรฐานที่สี่ของ 3G WCDMA โดยใช้กันอยู่ในทวีป ยุโรปและเอเชีย โดยเป็นความถี่ย่านเดียวกับ GSM 900 MHz

คลื่น 3G ที่ให้บริการตอนนี้เป็นคลื่นความถี่ใด

ตอบ: คลื่นความถี่ 3G ที่ทาง True Move ให้บริการเป็นคลื่นความถี่ในย่าน 850 MHz เช่นเดียวกับ DTAC ส่วนทาง AIS ใช้ 3G ในย่าน 900 MHz

แล้วความถี่ในย่าน 2100 MHz ในไทยใครให้บริการบ้าง

ตอบ: 3G ความถี่ในย่าน 2100 MHz ยังไม่มีใครได้สิทธิ์ในการให้บริการ จนกว่าทาง กทช. (คณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) จะทำการเปิดประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งจากข้อมูลของ กทช. แจ้งไว้ว่าจะมีการประมูลภายในปีนี้ และอาจจะเสร็จชาติหน้า ... รอรุ่นเหลนผมมาอัพเดทบทความนะครับ

โทรศัพท์มือถือที่จะใช้กับระบบ 3G ได้ต้องเป็นอย่างไร

ตอบ: โทรศัพท์มือถือที่จะใช้กับระบบ 3G ของบ้านเราตอนนี้ จะต้องเป็นโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ WCDMA ในย่านความถี่ 850 MHz โดยโทรศัพท์ที่รองรับ WCDMA ทุกรุ่นจะมีการรองรับระบบ GSM ในตัวเดียวกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผู้ใช้ก็จะสามารถใช้ได้ทั้งระบบ 3G และ 2G ในตัวเดียวกัน คือถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 3G โทรศัพท์มือถือจะจับสัญญาณ 3G โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าออกจากพื้นที่ของ 3G โทรศัพท์มือถือก็จะไปจับสัญญาณ 2G แทน

ความเร็วของ 3G ที่ว่าเร็วนั้น มีความเร็วอยู่ในระดับใด แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ 3G นั้นสนับสนุนการส่งข้อมูลความเร็วสูง

ตอบ: เทคโนโลยี 3G นั้นมีความเร็วในการรับและการส่งข้อมูลได้ในระดับต่างๆได้แก่

ความเร็วในการรับข้อมูล หรือ Download นั้นปัจจุบันมาตรฐานมีความเร็วอยู่ที่ 3G

Standard: 384 kbps

3G HSDPA (High Speed Downlink Packet Access): 3.6 Mbps, 7.2 Mbps, 10.2 Mbps, 14.4 Mbps

ความเร็วในการส่งข้อมูล หรือ Upload นั้นปัจจุบันมาตรฐานมีความเร็วอยู่ที่ 3G

Standard: 384 kbps

3G HSUPA (High Speed Uplink Packet Access): 2.0 Mbps, 5.76 Mbps

ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลนี้ได้จากผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือว่ารองรับขีดความสามารถในการส่งและการรับข้อมูลได้ในระดับใด อาจจะดูจากกล่องบรรจุภัณฑ์ หรือตรวจสอบจากข้อมูลในเว็บไซต์ของผู้ผลิต นอกจากนี้ยังต้องเช็คกับผู้ให้บริการเครือข่ายว่าระบบของผู้ให้บริการมีบริการรองรับได้ในระดับความเร็วสูงสุดเท่าไร

*เราอาจจะเรียกโทรศัพท์ที่มีทั้งเทคโนโลยี HSDPA และ HSUPA อยู่ในตัวเดียวกันว่า HSPA (High Speed Packet Access)*

แล้วเครือข่าย 3G ของ บ้านเราตอนนี้รองรับได้ที่ความเร็วเท่าไร

ตอบ: ปัจจุบันเท่าที่ทดลองใช้สัญญาณ 3G ได้ความเร็วอยู่ที่ ความเร็วในการรับข้อมูล (Downlink) สูงสุดอยู่ที่ 2 Mbps (HSDPA) ความเร็วในการส่งข้อมูล (Uplink) สูงสุดอยู่ที่ 384 kbps (Standard)

ในอนาคตเมื่อมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ความเร็วที่จะให้บริการจะมีความเร็วสูงกว่าที่ให้บริการทดลองสัญญาณในขณะนี้ แล้วการใช้ 3G ในช่วงทดลองสัญญาณจะต้องทำอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายอย่างไร

ตอบ: ผู้ใช้ต้องมีเครื่องที่รองรับระบบ 3G ในย่านความถี่ 850 MHz เสียก่อน (ดูจากโทรศัพท์รุ่นที่รองรับ) แล้วมี SIM ของ TrueMove / Dtac ไม่ว่าจะเป็นระบบ Prepay หรือ Postpaid ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นเมื่อมีการใช้โทรศัพท์เมื่ออยู่ภายใต้สัญญาณ 3G นั้นจะมีค่าใช้จ่ายคิดตามปกติได้แก่ Voice, SMS, MMS, ค่าคอนเทนต์ที่ใช้บริการ ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการใช้ Data, Internet จะไม่มีการเก็บค่าบริการ จนกว่าจะมีการเปิดตัวและให้บริการ 3G อย่างเป็นทางการ

จะรู้ได้อย่างไรว่าใช้โทรศัพท์ในระบบ 3G อยู่

ตอบ: สังเกตที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือซึ่งจะมีสัญลักษณ์ 3G อยู่บนหน้าจอแถวบนสุด หรือในบางรุ่นจะมีตัวอักษรตัว “H” บนหน้าจอแถวบนสุด แสดงให้เห็นว่ามีการใช้งานอยู่ภายใต้ระบบ 3G เทคโนโลยี HSDPA หรือ HSUPA อยู่

โทรศัพท์มือถือที่จะใช้กับระบบ 3G ของบ้านเรามีรุ่นอะไรบ้างที่จำหน่ายในตลาดไทย

ตอบ: หลักๆคือว่าลูกค้าจะต้องมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3G WCDMA ในย่านความถี่ 850 MHz ซึ่งปัจจุบันในตลาดเมืองไทยมีการจำหน่ายอยู่ 5 ยี่ห้อ 22 รุ่น

* Nokia: 3120 Classic, 6120 Classic, 6267, 6500 Classic, 6500 slide, 6555, 6600 Slide, 6600 Fold, 5610 Xpress Music, 7900 Prism, E51

Sony Ericsson: K850i, W760i, C510, W508, W705, W995, C903, T707

Apple: iPhone 3G, iPhone 3GS

BlackBerry: Bold 9000

HP: iPaq 600, iPaq 912

แล้วมีอุปกรณ์อื่นๆอะไรที่สามารถใช้กับระบบ 3G เพื่อใช้ต่อเชื่อมเป็นอินเตอร์เนตกับคอมพิวเตอร์หรือไม่

ตอบ: นอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว ปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ความสามารถทางด้านการสื่อสารข้อมูลของ 3G ในการต่อเชื่อมอินเตอร์เนตแบบไร้สายได้มากมาย ได้แก่ 3G USB Modem หรืออาจจะเรียกว่า Air Card เป็นอุปกรณ์ที่จะมาต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์เนตบุ๊คผ่านทาง USB port แล้วสามารถต่อเชื่อมกับระบบ 3G เพื่อใช้ในการเข้าสู่อินเตอร์เนตได้แบบไร้สาย 3G Wi-Fi Router เป็นอุปกรณ์ที่จะรับสัญญาณดาต้าจากระบบ 3G แล้วปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ออกโดยรอบๆ เพื่อใช้เป็น Wi-Fi Access ส่วนตัวได้เลย

แล้วในต่างจังหวัดอื่นๆจะมีโอกาศได้ใช้เครือข่าย 3G หรือไม่

ตอบ: ผมเชือว่าหลายๆค่ายมีแผนในการขยายเครือข่าย 3G ไปทั่วประเทศในอนาคตต่อไปแน่นอนครับ เพราะ 3G จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในบ้านแรา แต่อย่างไร 2G ก็น่าจะยังมีบทบาทอยู่เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานด้านเสียงครับ

ยกเครดิต ให้เวป http://pdamobiz.com